Powered By Blogger

All-New Isuzu D-Max ปี 2012 อีซูซุ ดีแม็ค

เปิดตัว All-New Isuzu D-Max ปี 2012 อีซูซุ ดีแม็ค รถปิกอัพแกร่งโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ

หลัง จากที่มีภาพหลุดมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา พอมาถึงช่วงเย็นทางบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ก็ได้มีการเปิดตัวรถยนต์กระบะ Isuzu D-Max 2012 อีซูซุ ดีแม็ค โฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ในตลาดในเมืองไทยมั่นใจกระแสตอบรับดี เปรยเคาะราคาจำหน่ายที่ 465,00 บาท สูงสุด 994,000 บาท แย้มอเนกประสงค์รอยาว 2 ปี

All-New Isuzu D-Max 2012

นาย ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า“อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!” จะเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของวงการรถยนต์ครั้งยิ่งใหญ่ รถปิกอัพสำหรับคนทั้งโลกที่รวมนวัตกรรมที่ทันสมัย ล้ำหน้า ได้รับการออกแบบใหม่หมด ทั้งขนาด รูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ผสานกับ “อีซูซุ ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนเรล” เทคโนโลยีเครื่องยนต์คอมมอนเรลแห่งอนาคต

เรามีความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนในวงการปิกอัพ เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกสวย งามล้ำสมัย ใหญ่ทุกมิติ ที่มาพร้อมความลู่ลมที่สุดและเงียบที่สุดด้วยเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ดุจรถไฟ หัวกระสุน โดยเฉพาะการทดสอบที่อุโมงค์ลม “JAPAN RAILWAY TECHNICAL RESEARCH INSTITUTE” หรือ JR ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอุโมงค์ลมที่ใช้ทดสอบรถไฟหัวกระสุน หรือ “ชินคันเซ็น” (Shinkansen) อันโด่งดัง

นาย ฮิโรชิ กล่าวต่อไปว่า อีซูซุมุ่งมั่นสร้างสรรค์ ยานยนต์ที่ไม่เพียงสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถชาวไทยซึ่งได้ชื่อ ว่ามีการใช้รถปิกอัพหลากหลายรูปแบบมากที่สุดในโลก แต่ยังสร้างสรรค์รถปิกอัพที่มีความเหนือชั้นในทุกด้าน เพื่อให้รถปิกอัพ “อีซูซุดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด!” นี้สานต่อความสำเร็จของอีซูซุในระดับโลก และเป็นรถปิกอัพสำหรับคนทั้งโลกอย่างแท้จริง

ด้าน คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าว ว่า อีซูซุดีแม็กใหม่นี้ จะมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 465,000 บาท และสูงสุดที่ 994,000 บาทโดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 14 ตุลาคม 2554 ในขณะที่แผนงานในเรื่องรถอเนกประสงค์หรือ Isuzu Mu-7 นั้น จะยังไม่เปิดตัวรุ่นใหม่ในอีก 2 ปีอย่างแน่นอน


ด้านสเป็กอื่น ๆ ของ Isuzu D-Max 2012

เรื่องร่างใหม่ ทันสมัย ไฉไล และลู่ลม

ที่ผ่านมา Isuzu Dmax นั้นอาจจะถูทมองว่าเป้นรถที่ผู้ใช้มักให้ความสำคัญต่อสมรรถนะประหยัดน้ำมัน ทว่า ครั้งนี้นั้นมันกำลังจะเปลี่ยนไป ด้วยรูปลักษณ์ที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแบบใหม่ยก ภายใต้การปฏิวัติการดีไซน์ใหม่หมดทั้งคันในแบบ “ดีไซน์เปลี่ยนโลก (Epoch Making)” และ “แรงบันดาลใจแห่งอนาคต” เพื่อให้เป็นรถปิกอัพที่ล้ำสมัย และเข้ากับโลกในอนาคตได้อย่างแท้จริง ท้าทายกาลเวลา โดดเด่นสะกดสายตาทุกมุมมอง

ด้านหน้าสะกดทุกสายตาด้วยไฟหน้าใหม่ FREEFORM PROJECTOR ให้อารมณ์ทันสมัยและยังสปอร์ตเต็มพิกัดตั้งด้านหน้า ด้านแนวคิด รูปทรงที่ดุดัน ทรงพลัง (Aggressive Form) ตัวรถมีรูปทรงลิ่ม ลู่ลม แบบ Wedge-shape Design ต่อเนื่อง สู่ด้านข้างที่ ดุดันด้วย Muscular Fender โป่งล้อขึ้นรูปขนาดใหญ่ ดุจกล้ามเนื้อของนักกีฬา ที่ทั้งหมดลงตัวด้วย ความสมดุลสูงสุดของรูปทรง (Perfect Proportion)โดยให้ความสำคัญกับ Center Line สมส่วน ทั้งมองระยะใกล้ หรือระยะไกล พร้อมเส้น Katana Line ดุจคมดาบซามูไรอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สุดยอดความสมบูรณ์แบบแห่งดีไซน์ที่ให้ความลู่ลมสุด เงียบสุด ด้วยเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ดุจรถไฟหัวกระสุน เพื่อให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุด ประหยัดน้ำมันที่สุด เงียบที่สุด โดยผ่านการทดสอบกับอุโมงค์ลมหลากหลายทั่วโลก โดยเฉพาะที่อุโมงค์ลม “Japan Railway Technical Research Institute” หรือ JR ซึ่งเป็นอุโมงค์ลมที่ใช้ทดสอบรถไฟหัวกระสุน หรือ “ชินคันเซ็น” (Shinkansen) อันโด่งดัง

บั้นท้าย Isuzu ล้ำหน้าด้วยไฟท้ายแบบ LED ครั้งแรกในวงการปิกอัพเมืองไทย ที่ยังเน้นทุกสัดส่วนไม่พ้นด้านบนกับ Cutting Edge Top View ให้มุมมองด้านบนที่สวยเฉียบขาดบาดใจ สะท้อนสไตล์รถสปอร์ต อย่างชัดเจน

UNIVERSAL DESIGN” เหนือระดับกับแนวคิดการดีไซน์

ในห้องโดยสาร Isuzu จัดการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดจดด้วยแนวคิด UNIVERSAL DESIGN ศิลปะและศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีความเป็นสากลร่วมสมัย โดยมองผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลาง และตอบสนองทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวคิดการออกแบบใหม่นี้ได้นำเสนอภายใต้ 3คอนเซปต์สำคัญคือ Raku Raku : Comfortable “สบายๆ” เพิ่มพื้นที่ว่าง กว้าง สบาย และเข้า-ออกรถ อย่างเป็นธรรมชาติและผ่อนแรงมากที่สุด

Kantan : Easy “ง่ายๆ” การออกแบบที่พิถีพิถัน ให้อุปกรณ์ทุกสิ่งภายในรถใช้งานง่ายจัดวางลงตัว และเข้าใจง่าย และ Anata Shidai : Up to you “สไตล์ใคร สไตล์มัน” เพิ่มมิติการใช้งานที่หลากหลาย และมีทางเลือกหลายรูปแบบที่สุด เพื่อประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด

นอกจากนี้ ในห้องโดยสารยังใส่ Multi-Information Display (MID) จอข้อมูลอัจฉริยะขนาดใหญ่ แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ โดดเด่นกว่าด้วยเมนู 2 ภาษา (ไทยและอังกฤษ) สามารถแสดงข้อมูลปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิของเครื่องยนต์ และอื่นอีกมาก มาพร้อมระบบ ปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Cooler)ออกแบบการกระจายความเย็นใหม่ ช่องแอร์ขนาดใหญ่ (เฉพาะรุ่น Z-Prestige 4 ประตู) เช่นเดียวดันกับ เบาะนั่งแบบ Bolster Seat โอบกระชับรับกับสรีระ เว้าเข้ารูปพอดีทั้งแผ่นหลังและสะโพก โดยในรุ่น Z-Prestige 4 ประตู เครื่องยนต์ 3.0 VGS ให้ความหรูหราครบครันเหนือชั้น กับ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง

สิ่งที่น่าสนใจใน Dmax ใหม่หมดนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในรุ่นแค๊ป ที่แนะนำSUPER SPACECAB ห้องโดยสารแบบปิกอัพแค็บเปิดได้ เพื่อความสะดวกสบายที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ และความปลอดภัยที่เหนือระดับกว่าด้วยโครงสร้างเสาเหล็กกล้าเสริมความแข็ง แกร่งเป็นพิเศษ ด้านความยบันเทิงก้ครบครันสมบูรณืแบบ ด้วย ISUZU ALL-NEW ENTERTAINMENT SYSTEM ที่มาพร้อมระบบเสียงSurround Sound System รอบทิศทางจากลำโพงสูงสุดถึง 8 ตัว พิเศษ! ครั้งแรกกับลำโพงคู่หน้าขนาด 6×9 นิ้ว ขับพลังเสียงกระหึ่ม พร้อมลำโพงพิเศษบนเพดาน “Exciter” สร้างมิติแห่งเสียงที่หนักแน่น คมชัด ถ่ายทอดทุกท่วงทำนองสมจริงทุกรายละเอียด

ขุมพลังประหยัด เน้นเพิ่มสมรรถนะเล็กน้อย

พูดถึง Isuzu ถ้าไม่พูดถึงความประหยัดนั้นก็ดูท่าว่ามันจะแปลกไปสักหน่อย และใน New! Isuzu Dmax ใหม่นี้ มันก้มาพร้อมเครื่องยนต์ อีซูซุ ดีดีไอ ซูเปอร์คอมมอนเรล” (ISUZU Ddi SUPER COMMONRAIL) เจนเนอเรชั่น 3.5 ที่ยังคงความเหนือชั้น

ขุมพลังที่ทรงพลังนี้ได้รับการออกแบบมาเป๋นอย่างดี ด้วยการปรับเปลี่ยน ระบบหัวฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง แรงดันสูง 180 MPa. และหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่! แบบ 8 รู ซึ่งมีขนาดรูเล็กลงถึง 10%

เทอร์โบแปรผันใหม่ ALL-NEW VGS TURBO ถูกเรียกมาใช้งาน ให้กา ตอบสนองได้แรงและเร็วกว่าในทุกรอบความเร็วเครื่องยนต์ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ใหม่ ขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยในส่วนของตัวเครื่องยนต์เองมีการปรับปรุงห้องเผาไหม้ เป็น แบบ Hi-swirl ให้ส่วนผสมดียิ่งขึ้น

ขุมพลังทรงพลังยังมาพร้อม 3 ทางเลือก เหมือนเคย ตั้งแต่ Ddi 2.5 VGS TURBO ขนาด 2,500 ซีซี ให้พลังเหลือเฟือถึง 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) สูงถึง 320 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ/นาที และ ISUZU Ddi 2.5 TURBOขนาด 2,500 ซีซี ให้พลัง 116 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (Flat-torque) สูงถึง 280 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,200 รอบ/นาที

อย่างไรก้ดี ถ้าคุณไม่พอใจเครื่องยนต์รุ่นเล็ก Isuzu ก็ยังมีรุ่นใหญ่ ISUZU Ddi 3.0 VGS TURBO ขนาด 3,000 ซีซี ผสานเทคโนโลยีเทอร์โบแปรผัน ให้พลังสูงถึง 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงแบบต่อเนื่อง (High Flat-torque) สูงถึง 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 – 2,800 รอบ/นาที ให้เลือก โดยทั้งหมด มาพร้อมระบบ ส่งกำลัง 5 สปีด ทั้งเกียร์ ธรรมดา และเดียร์ อัตโนมัติ วึ่งให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้น ด้วย Sport – Shift ให้การเข้าเกียรืง่ายและเร็วยิ่งขึ้น สำหรับเกียร์ธรรมดา ส่วน เกียร์อัตโนมัติขับสนุกยิ่งขึ้นกับระบบ REV TRONIC ให้เข้าเกียร์ได้แบบเดียวกับเกียร์รรมดา

สมรรถนะมั่นใจได้กับการพัฒนาตั้งแต่จิตวิญญาณ

ใบหน้าที่แข็งแกร่งดุดันนี้ เครื่องยนตืที่ทรงพลัง อาจจะดูเพียงพอแล้วที่รถคันนี้จะชนใจคนไทย แต่ Isuzu ก็ยังไม่วางใจ และเน้นการพัฒนามากยิ่งขึ้นตั้งแต่โครงสร้าง แชสซีส์แบบ Multi-piece Rip Rail ขนาดใหญ่สุด แข็งแรงขึ้น 42% ให้ความทนทานยิ่งขึ้น

i-GRIP PLATFORM (ISUZU Gravity Responsive Intelligent Platform)พัฒนาการล่าสุด เหนือระดับไปอีกขั้นด้วยโครงสร้างช่วงล่างใหม่ จัดวางตำแหน่งเครื่องยนต์ให้เข้าใกล้จุดศูนย์กลางของตัวรถ ช่วยการกระจายน้ำหนักให้สมดุลยิ่งขึ้น ให้การทรงตัวเป็นเยี่ยม ค่าสัมประสิทธิ์ทรงตัว SSF (Static Stability Factor) ที่ดีที่สุด มาพร้อม ช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง ผสานกับช่วงล่างหลังแบบแหนบขนาดยาวพิเศษ Long Span เสริมโช้กอัพแก๊สทั้ง 4 ล้อ ให้ช่วงล่างทั้งระบบเปี่ยมประสิทธิภาพสูงสุด ดูดซับแรงกระแทกดีเยี่ยม โดยในส่วน นรุ่นอีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส และรุ่นอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ ใช้ช่วงล่างแบบแหนบเหนือเพลา (Over Slung) เสริมสมรรถนะออฟโรด

ปลอดภัยเพียบครบครันเหมือนเคย

เรื่องความปลอดภัยนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่ผู้ใช้รถให้ความสำคัญ มากขึ้นในปัจจุบัน และ Isuzu Dmax ใหม่นี้ก้จัดมาได้อย่างครบครัน ทั้งในด้านการป้องกันและปกป้องสิ่งไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้โดยไม่คาด คิด

ในด้านการป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุนั้น Isuzu ได้เห้ความสำคัญตั้งแต่เรื่องของระบบช่วงล่างที่มีการเพิ่มฐานล้อและระยะ ห่างระหว่างล้อหน้า-หลัง และยัง ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงที่ดีที่สุด (Center of Gravity) ลดโอกาสการเสียหลักพลิกคว่ำ ด้วยค่า SSF 1.31 หรือเทียบเท่าระดับ 4 ดาวของสถาบัน NHTSA สหรัฐอเมริกา และยังเพิม่ความมั้นใจมากขึ้นกับ ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control) ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวในขณะขับขี่ ร่วมกับ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System) ควบคุมและป้องกันการลื่นไถลของล้อขณะออกตัว

ระบบเบรกพื้นฐานออกแบบใหม่หมด ให้รับกับตัวรถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ตั้งแต่หม้อลมเบรกขนาดใหญ่สุดถึง 10.5 นิ้ว พร้อม Tied-bar ถ่ายทอดแรงเหยียบจากแป้นเบรกสู่หม้อลมเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานกับ ระบบเบรก ABS ชนิด 4-channel 4-sensor ในรุ่นที่มีระบบ ESC และชนิด 3-channel 4-sensor ในรุ่นที่ไม่มีระบบ ESC ให้ความแม่นยำ รวดเร็ว พร้อมระบบควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake-force Distribution) เสริมด้วยระบบ Dual G-Sensor (ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) ควบคุมการทำงานของระบบเบรก ABS โดย ในรุ่น Z และ Z-Prestige ยังมีระบบเสริมแรงเบรก Brake Assist (BA) ให้มั่นใจในการเบรกด้วย

ห้องโดยสารให้การปกป้องผู้โดยสารมากที่สุดตั้งแต่โครงสร้างการออกแบบใช้ ตัวถังแบบเหล็กกล้า High Tensile Strength Steel พร้อมเพิ่มระยะห่างระหว่างแชสซีส์ส่วนหน้าถึงโครงสร้างห้องโดยสาร เพิ่มความสามารถในการดูดซับแรงกระแทกได้มากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ถ้ายังช่วยไม่ได้ ก้มีแอร์แบคคู่ (Dual SRS Airbags)ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Safety Belts) ปรับระดับได้ ปกป้องได้อย่างมีประสิทธิภาพและแกนพวงมาลัย และแป้นเบรกแบบยุบตัวได้ ช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บ กรณีเกิดแรงกระแทกจากการชนในส่วนหน้าอกและเท้า

ไม่มีบทความ
ไม่มีบทความ